https://www.pinterest.com/pin/364721269806192503/
จัดฟันแฟชั่น ถูก(เเต่คุณภาพ???)
จัดฟันแฟชั่น หรือ ดัดฟันแฟชั่น เป็นภัยอันตรายก่อนอื่นมาแยกกันก่อน จัดฟัน กับ จัดฟันแฟชั่น ต่างกันยังไง
จัดฟัน
– ทำกับหมอฟันอย่างถูกวิธี เข้าไปร้านหมอฟัน แล้วพบทันตแพทย์ค่ะ ทำตามหมอสั่ง
จัดฟันแฟชั่น หรือ ดัดฟันแฟชั่น
– ไปซื้อยางจัดฟัน เหล็กจัดฟัน มาทำเอง จากทาง facebook บลาๆ แล้วมาใส่เองค่ะ พัง จบ พัง พัง
– ไปร้านที่ดูเหมือนจะหมอฟัน แต่ขายยางจัดฟัน เหล็กจัดฟัน แล้วรับใส่ให้ด้วย ไม่ต้องตรวจ ใส่เลย พังแน่นอนค่ะ
ผู้ตายขอเงินแม่ 2,000 บาท ไปจัดฟันแฟชั่น ตามเพื่อนๆกลับมาปวดบวมหลายวัน ไปหาหมอทนไม่ไหวเสียชีวิตซึ่งอาจมาจากความไม่สะอาดของเครื่องมือ ทำให้ติดเชื้อได้ประกอบกับไม่ได้ทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผู้ตายตัวเหลืองซีด ซึมเศร้าไปจัดฟันที่ร้านสำหรับจัดเพื่อแฟชั่น เท่านั้นไม่ได้มีหมอผู้เชี่ยวชาญมาทำ
ซึ่งอาจติดเชื้อจากอุปกรณ์ที่ไม่สะอาดนี้คือ 2 กรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับอันตรายของ การจัดฟันแฟชั่น
ที่น้องๆ อยากจะทำกัน เจ๊อยากเอามาเตือนสติน้องๆ หนูๆต่างประเทศเขาไม่ได้เห็นว่าการจัดฟัน เป็นแฟชั่นเขาเป็นว่าเป็นการรักษาฟันธรรมดา ธรรมดา
สาเหตุหลักๆ ของการไปจัดฟันแฟชั่น
ตามเพื่อน
ตามในสิ่งที่ควรตามนะคะ ลองเอาข้อมูลจริงๆไปเถียงกันเด็กยุคใหม่แล้ว ฉลาดเลือก ฉลาดทำ
เงินน้อย
งบน้อยหอยสังข์เรื่องนี้เจ๊ไม่สามารถช่วยได้จริงๆ แต่ถ้ามีปัญหาของฟันจริงๆ ลองปรึกษาพ่อแม่ดูค่ะ
หรือทำงานเก็บเงินเองค่ะ งานพาทไทม์ทั่วๆไปเยอะมาก ได้สังคม เจอคนมากมายจัดฟันจริงๆ ใช้จ่ายสูง แต่เพื่อสุขภาพปากที่ทำงานทุกวันของเรา ดูแลมันเถอะค่ะ
http://www.judfunschool.com/%E0%
ข้อเสียของ การจัดฟันแฟชั่นลวดจัดฟันที่ขายกัน มีลักษณะเป็นลวดสแตนเลตซึ่งมีสารปนเปื้อนหลายชนิด เข้าไปสะสมในร่างกายอาจทำให้เกิด ไตวาย ได้ลวดจัดฟัน ไม่สะอาดทิ้มกระพุ้งปาก เป็นแผลติดเชื้อ เรื้อรัง ได้ขนาดจัดฟันกับทันตแพทย์ ยังทิ้มเลย ยางจัดฟัน สีสันสวยงาม ไม่ได้มาตราฐานพอเข้าไปอยู่ในปาก เจอน้ำลาย อาหาร ต่างๆ ที่ผ่านปากจะทำให้สียางจางลด ซึ่งถ้าไม่ได้มาตราฐานอาจจะมีสารที่เคลือบอยู่สะสมในร่างกาย ขั้นตอนการทำไม่ได้มาตราฐานการจัดฟันจากร้านที่ไม่ใช่แพทย์จริง อาจไม่มีการฆ่าเชื่ออุปกรณ์ต่างๆแล้วปากขอเราคิดดูสิ เชื้อโรคจากคนอื่น อาจเข้าปากเราได้ ติดเครื่องมือจัดฟันเอง หลุดเข้าคอ อาจถึงตายบางคนซื้อแต่ยางจัดฟัน เหล็กจัดฟัน มาติดเองใช้กาวอะไรก็ไม่รู้ ตราช้างหรือป่าว ติด ทำหลุด เข้าปาก ติดคอตาย ก็ได้นะคะ ฟันสวย กลายเป็น ฟันพัง! หลายคนฟันเรียงสวยงาม แต่อยากมีแฟชั่นแต่ไม่รู้หรอกว่าฟันเราจะพังได้ เพราะยางจัดฟันที่ใช้ดึงมีแรงขยับฟันได้มากมายนัก ฟันอาจเบี้ยวไม่เป็นถ้าไม่งั้นหมอจะเรียนกันถึง 6 ปี ทำไม เพื่อมาจัดฟันแถมยังต้องเรียนสาขาเฉพาะอีก หลายปี
ต้องถอนฟันทิ้ง เพราะฟันตายการใส่ยางจัดฟัน ดึงฟันเอง แบบไม่รู้อะไรนั้นถ้าเกิดการเคลื่อนของฟันมากๆ จะทำให้ฟันตายได้จัดฟันจากทันตแพทย์จึงใช้เวลานาน 2 ปีขึ้นเลยทีเดียว
สุดท้าย…หวังว่า น้องๆ จะกลัวกันบ้างไรบ้างจัดฟันกับทันตแพทย์ที่ถูกต้องกัน
ปากอยู่กับเราไปจบตายนะคะ ดูแลมันดีๆและดูแลตัวเองด้วย คนที่กลับใจแล้ว อยากจะยิ้มสวย ฟันสวยลองอ่านบทความเหล่านี้ต่อเลยจ้า
ท้ายสุดละ…จัดฟันแฟชั่น ระวังฟันพัง!
แหม๋… นี้ก็ยุคไหนกันละคะ จัดฟัน เขาพัฒนาไปกันไกลแสนไกล แต่ รูปแบบ ในการ จัดฟัน ก็ยังคงเค้าเดิม ๆ อยู่เพียงแต่ อุปกรณ์ เทคนิคต่าง ๆ ถูกพัฒนามากขึ้นเท่านั้นเอง
รูปแบบการจัดฟันแบบต่างๆ ราคาจัดฟัน และจัดฟันนานแค่ไหนกันนะ
จัดฟัน แบบโลหะด้านนอก
จัดฟัน แบบโลหะด้านใน
จัดฟัน แบบสีเหมือนฟัน (เซรามิก)
จัดฟัน แบบใส ถอดออกได้
รายละเอียดการจัดฟันแบบต่าง ๆ ด้านล่างเลยจ้า
จัดฟัน แบบโลหะด้านนอก การจัดฟันแบบนี้ คงจะเห็นกันได้ทั่วไป มีเหล็กด้านนอกเปลี่ยนยางสีสันสวยงามนิยมกันมานานแสนนาน จริง ไม่ได้โม้ ปัจจุบันเขาก็พัฒนาให้วัสดุมันเล็กลง ปวดน้อยลงประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้ที่เหมาะ…
– คนที่มีเงินไม่เยอะสำหรับจัดฟัน
– อยากมีแฟชั่นสวยๆ ที่ฟัน (บางทีก็อาจไม่สวยนะคะ บ่งตรงรักจุงเบย 555)
ระยะเวลาการจัดฟัน…
– โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2-5 ปี แล้วแต่สภาพฟันแต่ละคน และการมีระเบียบวินัยของตัวเธอเอง
จัดฟัน แบบโลหะด้านนอก
ข้อดี…
– เศษอาหารติดได้ยากสุดละ เพราะวัสดุที่ใช้จัดฟัน มันวาว ลื่นๆ นิดๆ – – (แต่ก็ติดบ่อยอยู่ 555)
– ทำความสะอาดง่าย ก็แน่นอนละ อยู่ด้านหน้า เปลี่ยนสียางแล้ว คนเห็น สวย ๆ เก๋ๆ 55555ข้อเสีย…– บางคนอาจไม่ชอบ 5555– อาจเกิดอุบัติเหตุกับเหล็กจัดฟันได้ – -* เหล็กจัดฟันขูดกระพุ้งแก้ม เป็นต้น ราคามาตราฐานการจัดฟันทั่วไป 30,000 – 50,000 บาท
จัดฟัน แบบโลหะด้านใน การจัดฟันแบบนี้เราจะไม่ค่อยเห็น เพราะเราจะสังเกตุไม่เห็น
มันจะอยู่ด้านหลังฟัน ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟัน
แต่ไม่อยากให้คนรู้ว่าเราจัดฟันอยู่ ใครจะทำละ ก็ ดารา ไงคะ
ผู้ที่เหมาะ…
– ไม่อยากให้เห็นเหล็กจัดฟัน เพราะเขินอาย หรือหน้าที่การงาน
– ต้องมีเงินพอสำควร สำหรับการจัดฟันแบบนี้
– ต้องผ่านการพิจารณาจากแพทย์ ว่าเหมาะสมจะทำได้ไหม ถึงแม้จะมีตังก็ตาม
ระยะเวลาการจัดฟัน…
– ระยะเวลาพอๆกับการจัดฟันแบบโลหะด้านนอก(2-5ปี) แต่บางครั้งอาจเร็วกว่านิดหน่อย
จัดฟัน แบบโลหะด้านใน
ข้อดี…
– คนไม่รู้ว่าเราจัดฟัน เพราะมันอยู่ด้านหลัง ^^
– ไม่ทำลายผิวฟันด้านหน้า เพราะเราจะทำความสะอาดได้ปกติ
ข้อเสีย…
– ทำความสะอาดยาก เพราะมันอยู่ด้านหลังฟัน ><
– ราคาแพงมาก เพราะ ติดวัสดุยาก ต้องทำซีกต่อซีก (นึกภาพนะ ฟันด้านหน้าเรียบๆ คล้ายกันหมด ด้านในนี้เป็นร่องไม่เท่ากันเลย) แถมหมอต้องมีความเชียวชาญด้วย
จัดฟันราคา…
– หลัก 100,000 บาท ขึ้นไปจ้า เจ๊ก็อยากทำ
จัดฟัน แบบสีเหมือนฟัน (เซรามิก) การจัดฟันแบบนี้ เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากให้คนสังเกตุเห็นว่าจัดฟันเหมือนกัน
แต่ว่าการจัดฟันจะจัดด้านหน้าเหมือนโลหะ เพียงแต่เปลี่ยนเป็นเซรามิกแทน
แล้วจะใช้ยางที่ยึดเป็นสีใสๆ
ผู้ที่เหมาะ…
– ไม่อยากให้คนรู้ว่าจัดฟัน
– หรือคนที่อยากจะจัดข้างใน แต่หมอไม่ให้เพราะสภาพฟันไม่อำนวยความสะดวก เลยมาซบอกอันนี้แทน
ระยะเวลาการจัดฟัน…
– เวลาปกติเลย 2-5 ปี แล้วแต่สภาพฟันแต่ละคนอีกนั้นละค่า
จัดฟัน แบบสีเหมือนฟัน (เซรามิก)
ข้อดี…
– คนไม่ค่อยเห็นไง ว่าเราจัดฟันอยู่
– ทำความสะอาดง่าย เพราะอยู่ด้านหน้า
ข้อเสีย…
– ต้องระมัดระวังในการดูแล เพราะเป็นเซรามิก แข็งแรงไม่เท่ากับโลหะแน่นอน
– ราคาแพงกว่า แบบโลหะ ธรรมดา ^^
– ฟันเหลือง ทำสีเหมือนฟัน เหลืองทั้งปาก
จัดฟันราคา…
– เคาะราคาที่ 60,000 – 90,000 บาทจ้า เพราะเซรามิกเลยแท้ๆ ที่ต้องขึ้นรูปเพื่อสีฟันเรา และต้องคงทนอยู่ได้นานๆ
จัดฟัน แบบใส ถอดออกได้ การจัดฟันแบบใส ถอดออกได้ เหมาะกับ คนรวยและมีวินัยค่ะ
ทางทันตแพทย์จะส่งข้อมูลโครงสร้างฟันเรา ไปห้องเลปที่อเมกาเลยค่า
เพื่อไปขึ้นรูปแบบพิมพ์ 3 มิติ ตามฟันในปากเรา เพื่อเอามาให้เราใส่ ปรับฟันทีละนิด
สีใส ใส่แล้วแนบฟัน ถอดออกตอนกินข้าว แปรงฟัน ที่เหลือใส่ตลอด
จะทำอันนี้ได้ แพทย์ต้องดูวินัยผู้จัดฟันด้วย
ผู้ที่เหมาะ…
– ไม่อยากให้คนรู้เลยว่าจัดฟัน แทบดูไม่ออก
ระยะเวลาการจัดฟัน…
– ใช้ 1-2 ปี ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าจัดฟันทั่วๆไป แล้วแต่สภาพฟันของเธอนะคะ
จัดฟัน แบบใส ถอดออกได้
ข้อดี…
– ฟันไม่ถูกรบกวนอะไรเลย หมดปัญหาเรื่องการดูแลฟันยาก นอกจากไม่แปรงเอง – -*
– คนก็ดูไม่ค่อยออกเหมือนกันว่าจัดฟัน
ข้อเสีย…
– แพงมาก แพงเว่อ ไปไกลถึงห้องเลปต่างประเทศ เทคโนโลีสุดๆ หมอต้องชำนาญด้วย
– พบหมอค่อนข้างบ่อย ต้องเปลี่ยนอันใหม่
– ต้องมีวินัย
– หลักแสนค่ะ อุปกรณ์ส่งตรงจากเมืองนอก
การจัดฟันแบบต่าง ๆ ภาษาชาวบ้าน หวังว่าเป็นประโยชน์กับประชากรทุกภูมิภาคนะคะและท้ายสุด
การจัดฟันทุกรูปแบบ พวกเธอควรจะ…ความปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และดูแลรักษาฟันให้มากขึ้น
การแปรงฟันที่ถูกวิธี 100% โดยผู้เชี่ยวชาญ
การแปรงฟัน คือการขจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออก ซึ่งควรทำเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง แต่บางคนแม้แปรงฟันตามคำแนะนำแล้วก็ยังคงฟันผุ ซึ่งไม่น่าแปลกใจหากการแปรงฟันของคุณเพียงแค่ขยับแปรงไปมา ไม่กี่ครั้งแล้วก็บ้วนออก หรืออีกกรณีคือพยายามแปรงฟันแปรงๆนานๆ ทำให้แปรงบาน หมดแรงสปริง ก็จะทำให้หมดประสิทธิภาพในการทำความสะอาด แถมเสี่ยงกับโรคเหงือกอักเสบเสียอีก
หลักการรักษาความสะอาดช่องปากที่ถูกหลัก จริงๆแล้วทำไม่ยากเลย เพียงเลือกยาสีฟันที่ดี แปรงสีฟันที่มีมาตรฐานและขั้นตอนการแปรงฟันที่เหมาะสม ซึ่งหากทำได้ตามนี้ก็ลดปัญหาฟันผุได้อย่างเหลือเชื่อ
5 ปัจจัยของ แปรงฟันที่ถูกวิธี มีประสิทธิภาพ
การแปรงฟันอย่างมีประสิทธิภาพ จะประกอบด้วยปัจจัย 5 ข้อ ดังนี้
1. ขนแปรงเลือกขนแปรงที่นุ่ม สามารถป้องกันอาการเสียวฟันและการสึกกร่อนของผิวฟัน พร้อมซอกซอนตามร่องฟันที่เป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและคราบจุลินทรีได้อย่างทั่วถึง จากความเชื่อเดิมที่ว่าการแปรงฟันแรงๆจะทำให้ฟันสะอาดนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดอย่างร้ายแรง ในความเป็นจริงการมีแปรงขนนุ่มที่มีการสปริงตัวได้ดี จะช่วยเสริมแรง และทำความสะอาดได้ดีกว่า
2. บริเวณที่ควรแปรงฟันบริเวณที่มีการสะสมของเศษอาหารและคราบแบคทีเรียมากที่สุด คือบริเวณเหงือกในช่วงรอยต่อระหว่างเหงือกและฟันที่จะมีคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารเข้าไปติดได้ง่ายที่สุด และเป็นส่วนที่ตรวจพบฟันผุบ่อยที่สุด ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจกับการทำความสะอาดบริเวณนั้นเป็นพิเศษ ซึ่งการทำความสะอาดที่ต้องที่แปรงอย่างเบามือและใช้แปรงขนนุ่ม ที่มีการคืนรูปแปรงที่ดีและกระทบเหงือกน้อยที่สุด การแปรงเหงือกไม่เพียงช่วยให้ทำความสะอาดสิ่งสกปรกแต่ยังช่วยนวดเหงือกให้แข็งแรงด้วย
3. ด้านของฟันที่แปรงการแปรงฟันที่ดีควรแปรงฟันให้ทั่วทุกซี่และทุกด้าน ไม่ควรใส่ใจกับบริเวณใดเป็นพิเศษ เพราะเมื่อคราบจุลินทรีย์และแบคทีเรียก่อตัว ผลกระทบก็จะเกิดขึ้นทุกที่ในช่องปากได้เช่นกัน โดยจุดที่แปรงสีฟันเข้าถึงยากที่สุด คือบริเวณฟันที่อยู่ติดกระพุ้งแก้มด้านในสุด และด้านในของฟันรวมถึงเพดานปาก เป็นส่วนที่อับสายตา สังเกตได้ยาก จำเป็นต้องใช้เวลาและละเอียดอ่อน ส่วนลิ้นและร่องเหงือกมักจะเป็นจุดที่ถูกละเลยการแปรงมากที่สุด แต่จริงๆแล้วปัญหากลิ่นปากและแบคทีเรียที่ไม่หมด เกิดได้จากทุกที่แม้บริเวณลิ้น ดังนั้นจึงต้องใส่ใจให้มีความสะอาดเท่ากันและทั่วถึง
4. เวลาที่ใช้จากการทดสอบพบว่า แปรงสีฟันสามารถแปรงฟันได้ครั้งละ 2-3 ซี่ ซึ่งเมื่อคำนวณเวลาจากการแปรงฟันทั้งด้านในและด้านนอกอย่างทั่วถึง จะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 นาที ดังนั้นการแปรงฟันควรแปรงอย่างตั้งใจ ไม่รีบร้อน เพื่อให้การแปรงมีประสิทธิภาพส่งผลต่อสุขภาพช่องปากที่ดี
5. ยาสีฟันการแปรงฟันควรใช้ควบคู่กับยาสีฟันทุกครั้ง ซึ่งการเลือกยาสีฟันที่ดี ต้องมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ในการป้องกันผุ เพราะเมื่อเราแปรงฟันไปได้ในระยะหนึ่งแล้วฟลูออไรด์จะเข้าไปทำปฏิกิริยาป้องกันฟัน เคล็ดลับการเลือกยาสีฟันที่ดี ควรเลือกยาสีฟันที่ไม่มีสีเข้มหรือเลือกใช้ที่มีส่วนผสมของสารฟอกฟันขาว จะช่วยป้องกันฟันเหลืองและให้ฟันขาวสะอาดขึ้น
การแปรงฟันที่ถูกวิธี
การแปรงฟันที่ถูกวิธี หมายถึง การแปรงโดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่มควบคู่กับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ โดยใส่ใจกับบริเวณที่เสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อโรคสูง คือ ฟันกราม ฟันด้านใน และลิ้น
อุปกรณ์สำหรับการแปรงฟัน
แปรงสีฟันการเลือกแปรงที่ดี คือ ต้องมีความยาวของคนแปลงคลุมตัวฟัน ประมาณ 1 – 1.5 เท่า ขนแปรงอ่อนนุ่มปลายมนเพื่อไม่กระทบต่อผิวฟันและบาดเหงือก อีกทั้งการคืนตัวของแปรงต้องมีการสปริงตัวที่ดี เพื่อการทำความสะอาดที่ดีกว่า
ยาสีฟัน
ยาสีฟันที่ดี คือ มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ซึ่งในยาสีฟันเด็กจะมีปริมาณฟลูออไรด์ผสมอยู่น้อยกว่าของผู้ใหญ่ ฟลูออไรด์มีผลช่วยลดสภาวะความเป็นกลดในช่องปาก พร้อมเคลือบเสริมความแข็งแรงให้กับฟัน ดังนั้นไม่ควรละเลย เพราะผิวฟันของเรามีการสูญเสียของผิวเคลือบฟันอยู่ตลอดเวลา
วิธีการแปรงฟันที่ถูกวิธี
ฟันของเรามักจะมีจุดที่เข้าถึงง่ายและยากแตกต่างกัน ซึ่งบริเวณที่เข้าถึงได้ยากนั้นจะทำให้แปรงได้ไม่สะอาด เช่น บริเวณฟันกรามล่างด้านใน บริเวณฟันกรามบนที่ติดกับกระพุ้งแก้ม
การแปรงฟันให้สะอาดทั่วถึง ขอแนะนำให้เริ่มจากจุดที่แปรงได้ยากที่สุดก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาและอย่าลงแรง จนสะอาดจากนั้นจึงเน้นฟันซี่ถัดไปจนครบทุกด้าน เพื่อความสะอาดของช่องปากอย่างทั่วถึง ซึ่งมีวิธีดังนี้
วิธีการแปรงฟันบนModified Bass Technic หรือวิธี ขยับและปัด ทั่วทุกบริเวณ โดยยกขนแปรงให้เฉียงขึ้นชิดกับเหงือกและเพดาน จากนั้นใช้วิธี กด-ดึง-ปัด โดยให้ปลายขนแปรงจากเดิมที่ยกขึ้นเปลี่ยนมาขนานกับแนวของซี่ฟันบริเวณนั้น กดแนวขนแปรงส่วนสุดท้ายให้ชิดกับบริเวณคอฟัน แล้วดึงแปรงลง ซึ่งขนแปรงต้องสัมผัสกับผิวฟันตลอด
การแปรงในส่วนของฟันกรามด้านบน ทั้งด้านแก้มและเพดานปาก และฟันหน้าด้านที่ติดกับริมฝีปาก ขณะแปรงฟันให้เอียงขนแปรงเข้าหาเหงือก 45 องศา ขนแปรงจะแทรกเข้าร่องเหงือกได้เล็กน้อย ให้ออกแรงถูกไปมาประมาณ 3 – 4 ครั้ง แล้วปัดแปรงตวัดลงเข้าหาตัวฟัน จนสุดปลายฟัน ทำซ้ำกันประมาณ 5 – 6 ครั้ง
วิธีการแปรงฟันล่างการแปรงฟันบริเวณกรามล่างด้านแก้ม ด้านลิ้น ด้านริมฝีปาก ให้ใช้วิธีเดียวกับฟันบน คือวิธี ขยับและปัด โดยเอียงแปรงสีฟันลง 45 องศาให้ปลายขนแปรงแทรกเข้าไปในร่องเหงือก ถูไปมาอย่างเบามือ 3 – 4 ครั้งแล้วจึงปัดขึ้นเข้าหาตัวฟัน ทำเช่นนี้อีก 5 – 6 ครั้ง เช่นกัน
วิธีการแปรงฟันด้านบดเคี้ยวให้วางขนแปรงตั้งฉากกับฟันที่เคี้ยว ออกแรงถูไปมา 4 – 5 ครั้ง แปรงให้ทั่วทั้งด้านทุกซี่
การแปรงลิ้นเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่คนส่วนใหญ่มักละเลย ซึ่งจริงๆแล้วลิ้นเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย โดยอาจมีทั้งเศษอาหาร หรือหากสังเกตุจะพบฝ้าขาวบริเวณลิ้น ซึ่งหากไม่ทำความสะอาดปล่อยทิ้งไว้ จะทำให้เกิดกลิ่นปาก แม้จะแปรงฟันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการทำความสะอาดลิ้น จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยใช้ขนแปรงสีฟันถูเบาบนลิ้น
ข้อควรจำเกี่ยวกับการแปรงฟันอย่างถูกวิธีควรแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะขณะรับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล
ใส่ใจกับการแปรงฟันให้ทั่วทั้งปาก ทั้งฟันบนและฟันล่าง ไม่ว่าจะด้านในหรือด้านนอกให้ทั่ว
การแปรงฟัน ควรแปรงแต่ละด้านให้ได้ประมาณ 4 – 5 ครั้ง และควรทำอย่างเบามือ
แปรงฟันอย่าใจร้อน ควรแปรงฟันให้ได้ประมาณ 2 – 3 นาที
การแปรงฟันที่ควรหลีกเลี่ยง คือการแปรงฟันที่กดด้ามแปรงขยับตามขวาง หรือขึ้นลงพร้อมกันแรงๆ เพราะจะทำให้เหงื่อกร่น และฟันสึกกร่อนอย่างรวดเร็ว
ควรใส่ใจกับขนาดของแปรงสีฟัน ต้องสามารถเข้าถึงจุดที่เข้าถึงยากได้ดี และขนแปรงต้องไม่แข็งจนเกินไป ที่มา : http://www.dentalthai.org/article/
ยาสีฟันสมุนไพรข่อย รสเปเปอร์มินท์ จากธรรมชาติ
สูตรและวิธีการทำผลิตภัณฑ์สปา "ยาสีฟันสมุนไพรข่อย รสเปเปอร์มินท์ จากธรรมชาติ" มรดกทางภูมิปัญญาของไทย: พื้นสมุนไพรไทยจากธรรมชาติที่นิยมใช้ทำยาสีฟันก็คือ ข่อย พบว่าเปลือกข่อยมีสารเทนนิน มีฤทธิ์ระงับเชื้อ ทั้งช่วยเคลือบฟัน นอกจากนี้ก็มีเกลือ ใช้เป็นผงขัดฟัน สารปรุงแต่งกลิ่นและรสเปเปอร์มินท์เติมเข้าไป ก็เพื่อทำให้ยาสีฟันน่าใช้ยิ่งขึ้น ใช้แล้วรู้สึกปากสะอาดสดชื่นมากขึ้น...
ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์สปา "ยาสีฟันสมุนไพรข่อย รสเปเปอร์มินท์ จากธรรมชาติ" ประกอบด้วย
• ผงแคลเซียมคาร์บอเนต 3 ช้อน
• ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันปเปอร์มินท์ 10 หยด
• ใบข่อยตากแห้งบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำผลิตภัณฑ์สปา "ยาสีฟันสมุนไพรข่อย รสเปเปอร์มินท์ จากธรรมชาติ" • ผสมผงแคลเซียมคาร์บอเนต ผงฟู และเกลือป่น คนให้เข้ากัน
• ผสมผงข่อยเข้ากับส่วนผสมข้างต้น
• หยดน้ำมันเปเปอร์มินท์เข้ากับส่วนผสม คนให้เข้ากัน
• นำส่วนผสมที่ได้บรรจุใส่กระปุกมีฝาปิด พร้อมใช้หรือจำหน่าย
ส่วนประกอบพื้นฐานของยาสีฟันแนวธรรมชาติ (Natural Toothpaste)ยาสีฟันแนวธรรมชาติ (Natural toothpastes) โดยทั่วไปจะไม่ใช้สารขัดถูที่มีส่วนประกอบของอลูมินัม แต่จะใช้สารประกอบของแคลเซียม เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต รวมทั้งใช้เกลือแกง(Sodium Chloride) ผงฟูหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต(Sodium bicarbonate) ปริมาณการใช้สารขัดถูในการผลิตยาสีฟันนั้น มีการใช้ตั้งแต่ 2-50 % โดยน้ำหนัก ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.45-2516) กำาหนดให้สารขัดถูในผลิตภัณฑ์ยาสีฟันที่ผลิตออกจำหน่าย ต้องมีปริมาณสารขัดถูไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 โดยน้ำหนัก
สารทำความสะอาด (Foaming Agents)ยาสีฟันแนวธรรมชาติ จะใช้สบู่ธรรมชาติ (สบู่ที่ผลิตจากน้ำมันพืชและสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์) เป็นสารทำความสะอาด บดเป็นผงใช้เป็นส่วนผสมในยาสีฟัน ใช้ในปริมาณ 1-2 % โดยน้ำหนัก
สารให้ความชุ่มชื้น (Humectant)สารให้ความชุ่มชื้นนี้ใช้ในกรณีที่ผลิตยาสีฟันเหลวบรรจุหลอด ถ้าผลิตยาสีฟันผง ก็ไม่ต้องใช้สารให้ความชุ่มชื้นนี้ทำหน้าที่ดูดความชื้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้ยาสีฟันแข็งตัว ยังคงความเหลวอยู่ ยาสีฟันแนวธรรมชาติจึงใช้กลีเซอรีนหรือซอร์บิทอลที่ได้จากพืช ในอัตราความเข้มข้น 15-30% ปริมาณที่ใช้ประมาณ 10-30% โดยน้ำหนัก
สารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Antibacteria agents)สารนี้ไม่ได้เป็นสารหลักในยาสีฟัน แต่เป็นสารที่ใส่เพิ่มเข้าไปในยาสีฟันเพื่อช่วยลดจำานวนแบคทีเรียในช่องปาก ยาสีฟันแนวธรรมชาติที่ใช้ผงฟู หรือโซเดียมไบคาร์บอเนตเป็นสารขัดถู ก็จะได้สรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย นอกจากนั้นสมุนไพรหลายชนิดทั้งในรูปของสมุนไพรแห้งบดเป็นผง และน้ำมันสกัดสมุนไพรก็มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และรักษาโรคในช่องปากได้ดี เช่น กานพลูอบเชย เทียนข้าวเปลือก เป็นต้น
สารปรุงแต่งกลิ่นและรส (Flavors)สารปรุงแต่งกลิ่นและรสนี้เติมเข้าไป ก็เพื่อทำให้ยาสีฟันน่าใช้ยิ่งขึ้น ใช้แล้วรู้สึกปากสะอาดสดชื่นมากขึ้น รสที่นิยมใช้กันทั่วไปก็คือ เมนทอล เปเปอร์มินท์ สเปียร์มินท์ เป็นต้น ยาสีฟันแนวธรรมชาติจะใช้สารสกัดและน้ำมันสกัดจากสมุนไพร ซึ่งมีมากมายหลายชนิดที่สามารถนำมาเติมลงในยาสีฟัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มกลิ่นและรสแล้ว สมุนไพรหลายตัวยังเพิ่มคุณสมบัติรักษาโรคในช่องปากได้อีกด้วย เช่น การบูร กานพลู ขิง อบเชย เทียนข้าวเปลือก เทียนสัตตะบุศย์ ผักชีฝรั่ง ผักชีลาว สะระแหน่ แมงลัก ลูกจันทร์เทศ ลูกกระวาน โป๊ยกั๊ก เป็นต้น
https://www.google.co.th/search